1.จากภาพที่กำหนดให้ จงอฐิบายความหมายของคำต่อไปนี้ พร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ - 1.1 ฐานข้อมูล (Database) หมายถึง กลุ่มของแฟ้มข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันและถูกนำมารวมกัน ตัวอย่างเช่น ฐานข้อมูลในบริษัทแห่งหนึ่ง อาจประกอบไปด้วยแฟ้มข้อมูลหลายแฟ้ม ซึ่งแต่ละแฟ้มต่าง ก็มีความสัมพันธ์กัน ได้แก่ แฟ้มข้อมูลพนักงาน แฟ้มข้อมูลแผนก แฟ้มข้อมูลลูกค้า แฟ้มข้อมูลสินค้า เป็นต้น
1.2 คลังข้อมูล (Data Warehouse) หมายถึง ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเฉพาะ ได้จากการใช้ หลักการหรือวิธีการเพื่อการรวมระบบสารสนเทศเพื่อการประมวลผลรายการข้อมูลที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และแต่ละสายงานมารวมเข้าเป็นหน่วยเดียวกัน เพื่อสนับสนุนกระบวนการตัดสินใจของผู้ตัดสินใจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
1.3 ดาต้ามาร์ท(Data mart) หมายถึง คลังข้อมูลขนาดเล็กมีลักษณะเฉพาะเจาะจงมากกว่าสำหรับใช้ในธุรกิจ มีขนาดของข้อมูลและค่าใช้จ่ายต่ำ การจัดทำคลังข้อมูลใช้เวลาสั้นการนำไปประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจสะดวกกว่าการใช้คลังข้อมูลกลางขององค์การ เช่น ฐานข้อมูลบุคคล และฐานข้อมูลงานขายในรู
1.4 ดาต้าไมนิ่ง (Data mining) หมายถึงเครื่องมือและเทคนิคในการสกัด (Extract) ข้อมูลและประมวลผลข้อมูลในเชิงวิเคราะห์ชั้นสูง จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ โดยสามารถหารูป แบบแนวโน้ม พฤติกรรม ความสัมพันธ์ที่ซ่อนในข้อมูลเพื่อให้ได้ความรู้ใหม่หรือลักษณะต่อไปนี้
1. ความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อง (Association)
2. ลำดับของข้อมูล (Sequence)
3. การหากฎเกณฑ์ในการจัดกลุ่ม (Classification)
4. การจัดกลุ่มของความคล้ายคลึง (Cluster)
5. การพยากรณ์ (Forecasting)
1.5 การประมวลผลเชิงวิเคราะห์แบบออนไลน์ (OLAP) หมายถึง เครื่องมือที่มีความสามารถในการค้นหา และวิเคาระห์ข้อมูล จากคลังข้อมูลเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ การวิเคราะห์ข้อมูลในลักษณะต่างๆเช่น
1.การหมุนมิติ (Rotation)
2.การเลือกช่วงข้อมูล (Ranging)
3.การเลือกระดับชั้น (Hierarchy)
1.6 จากภาพที่กำหนด A B และ C ให้ จงระบุและอธิบายว่า A,B และC หมายถึง
A คือ คลังข้อมูล (data warehouse)
B คือ ดาต้ามาร์ท (data mart)
C คือ OLAP , Data Mining
2. จงอธิบายถึงประโยชน์ของคลังข้อมูลที่มีต่อพนักงานปฏิบัติการขององค์การ
ตอบ - พนักงานสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้หลายฝ่ายทั้งองค์กร หลีกเลี่ยงความขัดแย้งของข้อมูลได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และ ข้อมูลเป็นมาตรฐานเดียวกัน และมีระบบความปลอดภัยของข้อมูลสูงใช้งานข้อมูลได้อย่างอิสระ
3. ธุรกิจอัฉริยะ หรือ Business Intelligence คืออะไร และมีการนำไปใช้งานอะไร
ตอบ - เป็นการใช้ข้อมูลขององค์การที่มีคุณค่ามาช่วยสนับสนุนการตัดสินใจในการดำเนินงานของธุรกิจ ซึ่งโดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลการค้นพบโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินการทางธุรกิจกระบวนการหลักๆของธุรกิจอัจริยะคือ การสนับสนุนการตัดสินใจ การคิวรีการรายงาน การประมวลผลเชิงวิเคราะห์แบบออนไลน์ (olap) การใช้งานเช่น การจัดทำประวัติของลูกค้า การประเมินถึงสภาพของตลาด การจัดกลุ่มของตลาดการจัดลำดับทางด้านเครดิต การเพิ่มความสามารถในการทำกำไร การจัดการความเคลื่อนไหวของสินค้า
4. จงยกตัวอย่างการประยุกต์ใช้ดาด้าไมนิ่งในธุรกิจอื่นๆที่ยังไม่ได้กล่าวถึงในบทนี้ มา 3 ตัวอย่าง
ตอบ - 1.กิจการร้านอาหาร (พยากรณ์ช่วงลูกค้าเยอะ และแนวโน้มชนิดการสั้งอาหาร)
2.กิจการร้านซ่อม (ช่วงไหนของปีที่งานเสียเยอะ ลักญณะอาการเสียที่เปลี่ยนไป )
3.ร้านขายส่งลูกชิ้น (การคิดค้นสูตรใหม่ แลความต้องการของลูกค้า )
5.จากปัญหาแฟ้มข้อมูลที่ได้กล่าวในตอนต้นของบทนี้ ท่านคิดว่าคลังข้อมูล และดาด้าไมนิ่งช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างไรบ้าง
ตอบ - 1.สามารถลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้(Minimum Redundancy)
2.เกิดความเป็นอิสระของข้อมูล(Data Independence)
3.สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้หลายฝ่ายทั้งองค์กร(Improved Data Sharing)
4.มีความคล่องตัวในการใช้งาน (Improved Flexibility)
5.สามารถกำหนดระบบความปลอดภัยของข้อมูลได้ (High Degree of DataIntegrity)
วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
คำถามท้ายบทที่ 1
1.ระบบสารสนเทศคืออะไร และระบบสารสนเทศมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์อย่างไรบ้าง
ตอบ - เป็นการนำองค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์กันของระบบมาใช้ในการรวบรวม บันทึก ประมวลและแจกจ่ายสารสนเทศเพื่อใช้ในการวางแผน ควบคุม จัดการและสนับสนุนการตัดสินใจ
2.ข้อมูลสารสนเทศ และสารสนเทศกับความรู้แตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ - ข้อมูลเป็นการรวบรวมข้อเท็จจริงต่างๆไม่ว่าจะเป็นตัวเลข อักษร รูปภาพ หรืออื่นๆ เพื่อมีการนำข้อมูลผ่านการประมวลผลแล้วจึงจะเรียกข้อมูลนั้นว่าสารสนเทศ และสารสนเทศที่ว่านี้เราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนและการตัดสินใจและการคาดการณ์ในอนาคตได้ สารสนเทศอาจแสดงในรูปแบบต่างๆ เช่นข้อความ ตาราง แผนภูมิ หรือรูปภาพได้สำหรับความรู้นั้นคือ การรับรู้และความเข้าใจสารสนเทศจนถึงระดับที่สามารถวิเคราะห์และสังเคราะห์ได้คือมีความเข้าใจในองค์ประกอบต่างๆจนอาจเป็นทฤษฎี หรือ เป็นแบบจำลองทางความคิด และสามารถนำไปใช้เพื่อแก้ปัญหาในการดำเนินงานได้
3.ส่วนประกอบของสารสนเทศทั่วๆไปมีอะไรบ้าง
ตอบ - การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบ (Input) เป็นกิจกรรม การรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบเพื่อการประมวลผล เช่น การจัดพิมพ์เช็คเพื่อข่ายเงินเดือนพนักงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานของพนักงาน
การประมวลผล (Process) เป็นการนำทรัพยากรที่ได้นำเข้าสู่ระบบมาปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูปที่มีความหมาย เพื่อใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจ วางแผน ควบคุม และดำเนินงานด้านต่างๆในการประมวลผล
ผลลัพท์ (Output) เป็นผลผลิตที่ได้จากการประมวลผล โดยทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบของเอกสารหรือรายงานสานสนเทศ เช่น รายงานยอดขาย สรุปไตรมาสต่างๆ
4.ระบบสารสนเทศคอมพิวเตอร์คืออะไร (CBIS) คืออะไร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง
ตอบ - การพัฒนาและประยุกต์เอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และการสื่อสารมาใช้ควบคู่กับสารสนเทศกลายเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในปัจจุบัน เพื่อลอกความผิดพลาดหรือล่าช้าที่จะผลิตสารสนเทศออกมา เช่น ระบบอินเตอร์เน็๖ที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในการส่งข้อมูล และสารสนเทศถึงกันและกัน
ระบบสารสนเทศคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย 6 ส่วนหลักคือ
1.ฮาร์ตแวร์
2.ซอฟแวร์
3.ข้อมูล
4.การสื่อสารหรือเครือข่าย
5.ขบวนการทำงาน
6.บุคคลากรที่จัดการให้คอมพิวเตอร์ดีขึ้น
5.จงยกตัวอย่างระบบใดๆ มา 1 ระบบ พร้อมทั้งจำแนกส่วนประกอบและเป้าหมาย
ตอบ - 1. ระบบ ข้าวผัดหมู 2. ส่วนประกอบของระบบ
2.1 ส่วนนำเข้า
หมู,ข้าว,กระเทียม,ซอสปรุงรส,กระทะ,ตะหลิว,เตา,แก็ส,ไข่
2.2 ประมวลผล
การผัดข้าวผัดหมู
2.3 ผลลัพท์
ข้าวผัดหมู
3. เป้าหมาย การทำข้าวผัดหมู ที่มีรสชาติอร่อยด้วย ความรวดเร็ว
ตอบ - เป็นการนำองค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์กันของระบบมาใช้ในการรวบรวม บันทึก ประมวลและแจกจ่ายสารสนเทศเพื่อใช้ในการวางแผน ควบคุม จัดการและสนับสนุนการตัดสินใจ
2.ข้อมูลสารสนเทศ และสารสนเทศกับความรู้แตกต่างกันอย่างไร จงอธิบาย
ตอบ - ข้อมูลเป็นการรวบรวมข้อเท็จจริงต่างๆไม่ว่าจะเป็นตัวเลข อักษร รูปภาพ หรืออื่นๆ เพื่อมีการนำข้อมูลผ่านการประมวลผลแล้วจึงจะเรียกข้อมูลนั้นว่าสารสนเทศ และสารสนเทศที่ว่านี้เราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนและการตัดสินใจและการคาดการณ์ในอนาคตได้ สารสนเทศอาจแสดงในรูปแบบต่างๆ เช่นข้อความ ตาราง แผนภูมิ หรือรูปภาพได้สำหรับความรู้นั้นคือ การรับรู้และความเข้าใจสารสนเทศจนถึงระดับที่สามารถวิเคราะห์และสังเคราะห์ได้คือมีความเข้าใจในองค์ประกอบต่างๆจนอาจเป็นทฤษฎี หรือ เป็นแบบจำลองทางความคิด และสามารถนำไปใช้เพื่อแก้ปัญหาในการดำเนินงานได้
3.ส่วนประกอบของสารสนเทศทั่วๆไปมีอะไรบ้าง
ตอบ - การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบ (Input) เป็นกิจกรรม การรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบเพื่อการประมวลผล เช่น การจัดพิมพ์เช็คเพื่อข่ายเงินเดือนพนักงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานของพนักงาน
การประมวลผล (Process) เป็นการนำทรัพยากรที่ได้นำเข้าสู่ระบบมาปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูปที่มีความหมาย เพื่อใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจ วางแผน ควบคุม และดำเนินงานด้านต่างๆในการประมวลผล
ผลลัพท์ (Output) เป็นผลผลิตที่ได้จากการประมวลผล โดยทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบของเอกสารหรือรายงานสานสนเทศ เช่น รายงานยอดขาย สรุปไตรมาสต่างๆ
4.ระบบสารสนเทศคอมพิวเตอร์คืออะไร (CBIS) คืออะไร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง
ตอบ - การพัฒนาและประยุกต์เอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และการสื่อสารมาใช้ควบคู่กับสารสนเทศกลายเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในปัจจุบัน เพื่อลอกความผิดพลาดหรือล่าช้าที่จะผลิตสารสนเทศออกมา เช่น ระบบอินเตอร์เน็๖ที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในการส่งข้อมูล และสารสนเทศถึงกันและกัน
ระบบสารสนเทศคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย 6 ส่วนหลักคือ
1.ฮาร์ตแวร์
2.ซอฟแวร์
3.ข้อมูล
4.การสื่อสารหรือเครือข่าย
5.ขบวนการทำงาน
6.บุคคลากรที่จัดการให้คอมพิวเตอร์ดีขึ้น
5.จงยกตัวอย่างระบบใดๆ มา 1 ระบบ พร้อมทั้งจำแนกส่วนประกอบและเป้าหมาย
ตอบ - 1. ระบบ ข้าวผัดหมู 2. ส่วนประกอบของระบบ
2.1 ส่วนนำเข้า
หมู,ข้าว,กระเทียม,ซอสปรุงรส,กระทะ,ตะหลิว,เตา,แก็ส,ไข่
2.2 ประมวลผล
การผัดข้าวผัดหมู
2.3 ผลลัพท์
ข้าวผัดหมู
3. เป้าหมาย การทำข้าวผัดหมู ที่มีรสชาติอร่อยด้วย ความรวดเร็ว
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
